หน่วยที่ 4
จิตวิทยาการเรียนการสอนและความเป็นครู
ความหมาย “ จิตวิทยา ”เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและ
กระบวนการทางจิตโดยศึกษาว่าสิ่งเหล่านี้ได้อิทธิพลอย่างไรจาก
สภาวะทางร่างกายสภาพจิตใจและสิ่งแวดล้อมภายนอก
กระบวนการทางจิตโดยศึกษาว่าสิ่งเหล่านี้ได้อิทธิพลอย่างไรจาก
สภาวะทางร่างกายสภาพจิตใจและสิ่งแวดล้อมภายนอก
แนวทางในการศึกษา
ศึกษาและสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบในห้องทดลอง
นำผลการทดลองไปใช้ในสถานการณ์จริงในห้องเรียนค้นหาวิธีการเรียน
การสอนที่มีประสิทธิภาพศึกษาเกี่ยวกับการวัดและการประเมินทาง
การศึกษาพัฒนาการด้านต่างๆของนักเรียน
นำผลการทดลองไปใช้ในสถานการณ์จริงในห้องเรียนค้นหาวิธีการเรียน
การสอนที่มีประสิทธิภาพศึกษาเกี่ยวกับการวัดและการประเมินทาง
การศึกษาพัฒนาการด้านต่างๆของนักเรียน
จิตวิทยากับการเรียนการสอน
จิตวิทยาการเรียนการสอนเป็นศาสตร์อันมุ่งศึกษาการเรียนรู้และ
พฤติกรรมของผู้เรียนในสถานการณ์การเรียนการสอน
พร้อมทั้งหาวิธีที่ดีที่สุดในการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างสอดคล้อง
กับพัฒนาการของผู้เรียน
พฤติกรรมของผู้เรียนในสถานการณ์การเรียนการสอน
พร้อมทั้งหาวิธีที่ดีที่สุดในการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างสอดคล้อง
กับพัฒนาการของผู้เรียน
ความรู้ที่อยู่ในขอบข่ายการเรียนการสอน
1.ความรู้เรื่องพัฒนาการมนุษย์
2.หลักการของการเรียนรู้และการสอนประกอบด้วยทฤษฎีการเรียนรู้และการเรียนรู้ชนิดต่างๆ
3.ความแตกต่างระหว่างบุคคลที่มีผลต่อการเรียน
4.การนำอาหลักการและวิธีการเรียนรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาการเรียนการสอน
2.หลักการของการเรียนรู้และการสอนประกอบด้วยทฤษฎีการเรียนรู้และการเรียนรู้ชนิดต่างๆ
3.ความแตกต่างระหว่างบุคคลที่มีผลต่อการเรียน
4.การนำอาหลักการและวิธีการเรียนรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาการเรียนการสอน
จุดมุ่งหมายของการนำจิตวิทยามาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอน
ประการแรก
มุ่งพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการเรียนรู้ของมนุษย์ในสถานการณ์การเรียนการสอน
ประการที่สอง
นำเอาองค์ความรู้ข้างต้นมาสร้างรูปแบบเชิงปฏิบัติเพื่อครูและ
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอน
หลักการสำคัญ
1.มีความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอน
2.มีความสามารถในการประยุกต์หลักการจิตวิทยาเพื่อการเรียนการสอน
3.มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่
4.มีเจตคติที่ดีต่อผู้เรียน
จิตวิทยาครู
ครู หมายถึง ผู้สอนมาจากภาษาบาลีว่า “ ครุ ” ภาษาสันสกฤตว่า “ คุรุ ” แปลว่า
หนักสูงใหญ่ ครูต้องรับภารหนักในหน้าที่และความรับผิดชอบครูต้องมีความหนักแน่น
สุขุมไม่วู่วาม ทั้งความคิดและการกระทำบทบาทและความสำคัญของครูในปัจจุบัน
ธีรศักดิ์ (2542)ได้กล่าวถึง 4 ประเด็นดังนี้
1.บทบาทและความสำคัญต่อเยาวชน
2.บทบาทและความสำคัญของครูในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
3.บทบาทและความสำคัญของครูในการรักษาชาติ
4.บทบาทและความสำคัญของครูในเยียวยาสังคม
รูปแบบของครู(Models of Teachers)
Fenstermacher และ Soltis (1992)ได้กล่าวถึงรูปแบบและบทบาทของครู เป็น 3 ประเภท
1. The Executive Model ทำหน้าที่คล้ายบริหาร
2. The Therapist Model มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนอย่างใกล้ชิด
3. The Liberationist Model ครูที่ให้อิสระผู้เรียนในการเรียนรู้
Parsons and others (2001กล่าวว่าครูควรมีหลายบทบาท
ตามความเหมาะสมของสภาพการณ์มิใช่มีความรู้หรือ
เชี่ยวชาญเฉพาะเนื้อหา
ดังนั้นครูอาจมีบทบาทดังนี้
1.รับผิดชอบการวางแผนการสอนและวัดผล
2.มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการสอนหรือให้ข้อมูลแก่ผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
3.ทำหน้าที่ผู้จัดการหรือบริหารห้องเรียนให้เหมาะสมกับการเรียนรู้
4.ให้คำปรึกษารับฟังความคิดเห็นแก่ผู้เรียน
บทบาทดังกล่าวนี้มีความสอดคล้องกับแนวคิดของ
Woolfok และ Nicalich (1980)
ที่กล่าวไว้หลายประเด็นและมีคลอบคลุมดังนี้
1.เป็นผู้ชำนาญการสอนเป็นผู้ที่กระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจ
2.เป็นผู้จัดการเป็นผู้นำ
3.เป็นผู้ให้คำปรึกษา
4.เป็นวิศวกรสังคมเป็นตัวแบบ
หลักการที่สำคัญสำหรับครู
Mamchak and Mamchak (1981)ได้กล่าวถึงขั้นตอนในการสร้างบรรยากาศในห้องเรียน
ที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างครูและนักเรียน
การสร้างบรรยากาศในห้องเรียน
1.ไม่รื้อฟื้นปัญหาที่เคยเกิดขึ้น
2.ให้ความยุติธรรมแก่เด็กอย่างเท่าเทียมกัน
3.ตั้งเป้าหมายที่นักเรียนสามารถทำได้
4.ครูควรบอกถึงข้อจำกัดของตน
5.ครูควรทราบข้อจำกัดของเด็กแต่ละคน
6.ครูควรใส่ใจเด็กทุกคน
ความสำคัญของจิตวิทยาการเรียนการสอน
1.ทำให้รู้จักลักษณะนิสัยของผู้เรียน
2.ทำให้เข้าใจพัฒนาการบุคลิกภาพบางอย่างของผู้เรียน
3.ทำให้ครูเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล
4.ทำให้ครูทราบว่ามีองค์ประกอบใดบ้างที่มีผลกระทบต่อสัมฤทธิ์ทางการเรียนเช่น
แรงจูงใจ ความคาดหวังเชาวน์ปัญญา ทัศนคติ ฯลฯ
ความสำคัญของจิตวิทยาการเรียนการสอน
1.ทำให้ครูทราบทฤษฎี หลักการเรียนรู้รวมทั้งหลักการสอนและวิธีการสอน
2.ทำให้ครูวางแผนการสอนได้อย่างเหมาะสม
3.ทำให้ครูจัดสภาพแวดล้อมของห้องเรียนได้สอดคล้องกับพัฒนาการ
รวมทั้งสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนที่เอื้อต่อการปกครองชั้นเรียน (สุวรี, 2535)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น